ภาพกสิน

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย อาโลกสิณัง, 11 ธันวาคม 2009.

  1. อาโลกสิณัง

    อาโลกสิณัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +57
    ฝีกเตโชกสิน
    แบบมีตำหนิ
    โดยการเพ่งเทียน
    ตามหลักของดร.จรูญ วัดยานนาวาในหนังสือ
    2 ขั้นตอนแรก
    1.ลืมตาดูไฟที่เทียน 15 วินาที หลับตานึกภาพ
    2.ลืมตาดูไฟที่เทียน 5 วินาท่ หลับตานึกภาพ
    และฝึกอีกวิธีคือ หลับตานึกเอา

    คำถามคือ
    ไอ้ภาพสีเหลืองส้มของไฟที่ติดตาที่มองเห็นตอนหลับตา เป็นดวงกลมมั่ง(โดยเฉพาะตอนเปิดพัดลมทำให้เทียนไม่นิ่งเนี่ยจะกลมดิ๊กเลย ) เป็นเปลวไฟทึบๆมั่งเนี่ย ซึ่งเป็นภาพที่ไม่มีชีวิตเราต้องมองดูมันแล้วภาวนาประคองให้มันอยู่ให้นานที่สุดเหรอครับ ซึ่งมันอยู่ได้ซักนาที 2 นาที แล้วภาพจะค่อยๆมืดลง จนกลายเป็นดวงสีดำ หายไป...แล้วก็แว๊บกลับมาใหม่ด้วยความสว่างที่น้อยลงเรื่อยๆ แล้วก็หายวับไปเลย
    แต่ถ้าหลับตาแล้วนึกภาพ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเพ่งอะไรก็ได้แค่หลับตาแล้วนึกถึงไฟภาพที่ได้มันไม่เหมือนกันนิ่ครับ เพราะการนึกภาพแบบนี้มันเป็นเหมือนภาพมีชีวิต เหมือนของจริงกว่า แต่ภาพจะลางๆ แล้วนึกไปเรื่อยๆมันจะเริ่มง่วง ภาพอื่นๆเหมือนตอนฝันจะเริ่มเข้ามาแทน
    ผมยังแค่เริ่มฝึกนะครับ แล้วก็ไม่ได้ถามว่าผมทำได้หรือไม่ได้นะครับ เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไม่ได้เรื่องครับแต่ถามว่า...
    ไอ้อันแรกคือดวงไฟที่ติดตา บนฉากหลังดำๆที่เปลือกตาเรา
    กับอันหลังเนี่ย
    อะไรคือภาพของกสิณที่ถูกต้องครับ
    ขอบคุณครับ
     
  2. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,619
    กสิณแสงสว่างดีสุดครับ...อิอิ ตามชื่อคุณเลยไง
    ถ้าจะกสิณไฟ ก็ทำซุ้มกสิณไม่มันถูกต้องไปเลยครับ
    เพ่งเทียนเดี๋ยวท้องเสียไม่รู้ด้วยนะ...อิอิ
     
  3. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    ยังไม่ใช่ผู้ชำนาญการเรื่องกสิณ แต่จากการลองปฏิบัติมาบ้าง ขอร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ คั่นเวลา รอผู้รู้จริงมาอธิบายอีกที

    อันกสิณทุกกอง สำคัญคือการนึกคิดจินตนาการในการสร้างนิมิตครับ ที่ท่านให้เพ่งดูของจริงก่อนนั้น เพื่อให้เกิดสัญญา จำได้ หมายรู้ แล้วจะได้ไปนึกคิดถึงสิ่งนั้นขึ้นมาเป็นรูปนิมิตในใจของผู้ปฏิบัติ ถ้าท่านเจ้าของกระทู้จำหรือนึกภาพของของสิ่งนั้นได้แล้ว วัตถุต้นแบบแทบไม่มีความจำเป็น ลัดขั้นตอน หลับตานึกภาพ สร้างนิมิตในใจได้เลย

    ทีนี้มาถึงเรื่องนิมิต

    1.อันแรกดูเหมือนว่าคุณจะพยายามใช้ประสาทสัมผัสทางตามากเกินไป (ที่บอกว่าเห็นภาพติดตา แล้วมีฉากหลังสีดำด้านหลังเปลือกตานั่นเอง) การเห็นภาพนิมิต เป็นการนึกภาพขึ้นในใจ การเห็นจะไม่เหมือนกับภาพที่เห็นจากตาเนื้อ ที่เคยเจอคล้ายๆ กับการเห็นภาพจากทางหางตาประมาณนั้น ความชัดเจนหรือไม่ขึ้นกับสมาธิของเราในขณะนั้นครับ

    2.อันหลังนี้คล้ายๆกับที่ผมเคยลองทำ คือไม่ต้องดูของจริง เพราะคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงใช้วิธีหลับตานึกสร้างภาพเอาเลย ถ้าตอบตามความเห็นของผม ผมว่าอย่างนี้น่าจะดีกว่าแบบแรก ที่บอกว่าภาพลางๆ และทำๆไปจะเริ่มง่วง อันนี้ต้องพิจารณาว่าสภาพร่างกายพร้อมหรือไม่ พักผ่อน หลับนอน กินอิ่มหรือไม่ เพราะการปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้น กำลังกายมีความสำคัญ แต่ถ้าเป็นท่านที่ปฏิบัติจนชำนาญแล้ว ไม่ว่าเวลาใด ปวดอุจจาระ ปัศสาวะ เต็มที่ เจ็บไข้ ไม่สบายหนักหนาสาหัสเพียงใด ท่านเหล่านี้ย่อมเข้าสมาธิได้ทุกเมื่อครับ

    การปฏิบัติที่ลองทำดู ผมเคยนึกถึงภาพลูกไฟทรงกลมขึ้นมาในใจ ขณะที่พิมพ์ข้อความอยู่นี้ ผมก็ยังนึกถึงภาพลูกไฟที่ว่านี้อยู่ด้วย เวลาเจ้าของกระทู้ฝึกปฏิบัติ ลองนึกถึงภาพไฟที่คุณจำได้ ขณะนึกถึง ให้น้อมนำใจถึงความรู้สึกร้อนของเปลวไฟไปด้วย ถ้าทำได้ถึงขนาดรู้สึกร้อนรุ่ม เหงื่อไหลไคลย้อยขึ้นมาเฉยๆ อันนี้น่าจะเข้าถึงอารมณ์ของเตโชกสิณแล้ว (ไม่ทราบว่ามีใครเคยเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า หรือว่าผมรู้สึกไปเองก็ไม่ทราบ)

    ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้ เคร่งเครียด จริงจังกับการหวังผลเกินไปหรือเปล่า ที่ผมลองทำในขณะฝึกสร้างนิมิต จะมองภาพในใจด้วยอารมณ์กึ่งๆ จริงจัง กึ่งๆ ผ่อนคลายครับ

    ในขณะคิดสร้างนิมิตของภาพไฟ ถ้ารู้สึกว่าจะฟุ้งซ่าน ก็หาอุบายอย่างอิ่นมาช่วยอีก เพื่อให้จิตไม่ว่าง ท่านถึงกำหนดให้มีการภาวนาควบคู่ไปด้วย เจ้าของกระทู้ลองภาวนาไปอย่าให้ขาดนะครับ หายใจเข้า "เตโช" หายใจออก "กสิณัง"

    เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว ภาพนิมิตที่ลางๆ เมื่อตอนแรก จะชัดเจนขึ้นตามกำลังของสมาธิไปเอง ถึงขั้นนี้ก็ต้องหมั่นฝึกควบคุมภาพนิมิตนั้นต่อไปครับ ตรงนี้ต้องฝึกให้มีความชำนาญ อาจใช้เวลาบ้าง

    ขอเอาประสบการณ์มาคุยแลกเปลี่ยนกันเท่านั้นนะครับ เพราะผมก็ยังไม่ใช่ผู้รู้จริงในเรื่องนี้ ขอให้รอคอยท่านผู้รู้จริงมาตอบข้อสงสัยให้ท่านต่อไปนะครับ
     
  4. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    ลองใช้โยนิโสมนสิการ โดยอ่านจากไฟล์ที่ผมแนบนะครับ อาจจะช่วยให้ความกระจ่างได้ครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    ขอขอบคุณ คุณJeerachai_BK อย่างยิ่งครับ อ่านไฟล์ที่แนบมาของคุณแล้วทำให้เข้าใจเรื่องนิมิตมากยิ่งขึ้น ต้องขออนุญาตนำเอาหลักการไปปรับปรุงการฝึกกสิณของผมต่อไป
     
  6. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    มันเป็นภาพที่ตาเนื้อเรามองเห็นได้นั้นแหละ
    ถ้าเรามองหลอดไฟ มันก็มีรูปร่างไปตามหลอดไฟแบบนั้น

    ถ้าเรามองจ้องเทียนเป็นกสิณ
    เราก็จะเห็นลูกแดงๆรีๆติดอยู่ที่เปลือกตาในขณะเราหลับตาทำสมาธิอยู่
    สักพักก็หายไป มันจะเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มหมอกสีต่างๆแทน
    ซึ่งกลุ่มหมอกที่ว่านี้มันจะเป็นแสดงสีสันของอารมณ์ต่างๆของเรา
    อารมณ์สีเขียวบ้าง อารมณ์สีเหลืองบ้าง เอาไว้ดูเพลินๆ

    ขุ่นมัวมามันก็จะเทาๆ เป็นกลุ่มแสงมัวๆจางๆ ไม่รู้ว่ามันสีอะไร
    พอจิตเป็นสมาธิมันก็จะสว่างริบหรี่ในดวงตา
     
  7. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    อืม ได้ความรู้แล้ว อิอิ
    เข้ามาอ่าน ฝึกกสินไฟเหมือนกัน
    สับสันกับการจำภาพนิดหน่อย ดันไปจำภาพที่ติดตาเรา
    ตอนนี้เข้าใจแล้ว ให้จำภาพของจริงใช่มั้ยค่ะ เดี๋ยวไปฝึกใหม่
    เริ่มฝึกเอง เมื่อวานฝึกไม่ได้เลยเพราะง่วงนอนมาก
    พอนั่งสมาธิก้อวูบ พอจ้องเทียนหลับตากับดับวูบอีก แย่จัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...